วิทยาศาสตร์ยืนยัน! การกอดช่วยให้ผู้สูงวัยสุขภาพดีขึ้น การกอดเป็นรูปแบบหนึ่งของการแสดงความรักและความห่วงใยที่มีอานุภาพ ไม่ว่าจะกอดเพื่อน คนในครอบครัว คนรัก หรือคนที่มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจต่อกัน เพราะนอกจากจะรู้สึกอบอุ่นและรู้สึกดีแล้ว ยังมีงานวิจัยการกอดที่ชี้ให้เห็นว่าการกอดมีประโยชน์ต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตอีกด้วย โดยเฉพาะในผู้สูงวัยที่การกอดสามารถช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพได้อย่างมาก กอดช่วยสุขภาพดีขึ้นได้อย่างไร? 1. ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่าการกอดจำเป็นต่อทารกและเด็กเล็ก ซึ่งมีหลักฐานว่าผู้ที่ได้รับการกอดบ่อย ๆ ตั้งแต่วัยเด็กจะมีอาการที่เกิดจากความเครียดน้อยกว่าเมื่อโตขึ้น และสำหรับผู้สูงวัย การกอดก็มีประโยชน์ในลักษณะเดียวกัน โดยช่วยให้ร่างกายลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียดได้ มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ทดลองให้เด็กผู้หญิงอายุ 7-12 ปีเผชิญกับสถานการณ์ตึงเครียด พบว่าเด็กที่ได้กอดหรือคุยโทรศัพท์กับแม่ก่อนเผชิญสถานการณ์ดังกล่าวมีระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลต่ำกว่าเด็กที่ไม่ได้รับการกอด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการกอดช่วยลดความเครียดได้จริง และผลลัพธ์นี้สามารถนำมาอ้างอิงกับผู้สูงอายุได้เช่นกัน 2. เพิ่มความผูกพันและความรู้สึกปลอดภัย การกอดช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนอ็อกซีท็อกซิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยเพิ่มความใกล้ชิดและความเชื่อใจต่อกัน มีงานวิจัยการกอดที่พบว่าผู้ที่กอดกับคนรักหรือครอบครัวบ่อย ๆ จะมีความรู้สึกมั่นคงและผูกพันกันมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยวซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของผู้สูงวัยหลายคน 3. ลดความดันโลหิต การกอดไม่เพียงช่วยให้จิตใจสงบเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อสุขภาพกายโดยตรง เช่น การลดความดันโลหิต งานวิจัยการกอดชิ้นหนึ่งที่ทดลองกับกลุ่มหญิงวัยก่อนหมดประจำเดือนจำนวน 59 คน พบว่าผู้ที่กอดกับคู่รักบ่อย ๆ มีระดับฮอร์โมนอ็อกซีท็อกซินเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ระดับความดันโลหิตลดลง ซึ่งอาจเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้สูงอายุที่มักเผชิญปัญหาความดันโลหิตสูง 4. ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและส่งเสริมภูมิคุ้มกัน ผู้ที่มีความเครียดสูงมักมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่าคนทั่วไป เนื่องจากความเครียดส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง งานวิจัยพบว่าผู้ที่ได้รับการกอดและการสนับสนุนทางอารมณ์จากคนรอบข้างมีแนวโน้มติดเชื้อหวัดน้อยกว่าคนที่ไม่ได้รับการกอดเลย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการกอดช่วยสุขภาพดีขึ้นได้จริงผ่านกลไกการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน…
เมนูสุขภาพ สำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาการเคี้ยว ทำไมผู้สูงอายุถึงมีปัญหาการเคี้ยว? เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ ปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น การสูญเสียฟัน ฟันสึก หรือฟันเทียมที่ไม่พอดี ส่งผลให้การเคี้ยวอาหารยากลำบาก นอกจากนี้ ระบบย่อยอาหารยังทำงานด้อยลง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะขาดสารอาหารและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น น้ำหนักลด ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และเกิดโรคเรื้อรังได้ง่ายขึ้น สาเหตุของปัญหาการเคี้ยวในผู้สูงอายุ การสูญเสียฟัน: การมีฟันน้อยหรือไม่มีฟันหลังที่สบกัน อาจทำให้ผู้สูงอายุไม่สามารถบดเคี้ยวอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ ฟันสึก: รูปทรงฟันเปลี่ยนไปจากการใช้งานนาน ทำให้การบดเคี้ยวอาหารไม่สะดวกและอาจเกิดความเจ็บปวด ฟันเทียมไม่พอดี: ฟันเทียมที่หลวมเกินไปหรือแน่นเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือแผลในช่องปาก เจ็บข้อต่อขากรรไกร: อาจเกิดจากการใช้งานที่ผิดวิธีหรือปัญหาทางโครงสร้างของกระดูกขากรรไกร
เทคนิคการเตรียมอาหารสำหรับผู้สูงอายุ ปรับเนื้อสัมผัส: ใช้วิธีการทำอาหาร เช่น ต้ม ตุ๋น ลวก นึ่ง หรือบดอาหารให้มีเนื้อสัมผัสนุ่ม เพื่อลดความยากลำบากในการเคี้ยว เลือกวัตถุดิบที่เหมาะสม: เน้นใช้เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา ไข่ เต้าหู้ และผักที่อ่อนนุ่ม เช่น ฟักทอง แครอท หรือผักต้ม เพิ่มรสชาติและสีสัน: ใช้เครื่องเทศหรือสมุนไพร เช่น ขิง ข่า หรือกระเทียม…
เมนูสุขภาพ สำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาการเคี้ยว ทำไมผู้สูงอายุถึงมีปัญหาการเคี้ยว? เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ ปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น การสูญเสียฟัน ฟันสึก หรือฟันเทียมที่ไม่พอดี ส่งผลให้การเคี้ยวอาหารยากลำบาก นอกจากนี้ ระบบย่อยอาหารยังทำงานด้อยลง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะขาดสารอาหารและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น น้ำหนักลด ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และเกิดโรคเรื้อรังได้ง่ายขึ้น สาเหตุของปัญหาการเคี้ยวในผู้สูงอายุ การสูญเสียฟัน: การมีฟันน้อยหรือไม่มีฟันหลังที่สบกัน อาจทำให้ผู้สูงอายุไม่สามารถบดเคี้ยวอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ ฟันสึก: รูปทรงฟันเปลี่ยนไปจากการใช้งานนาน ทำให้การบดเคี้ยวอาหารไม่สะดวกและอาจเกิดความเจ็บปวด ฟันเทียมไม่พอดี: ฟันเทียมที่หลวมเกินไปหรือแน่นเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือแผลในช่องปาก เจ็บข้อต่อขากรรไกร: อาจเกิดจากการใช้งานที่ผิดวิธีหรือปัญหาทางโครงสร้างของกระดูกขากรรไกร
เทคนิคการเตรียมอาหารสำหรับผู้สูงอายุ ปรับเนื้อสัมผัส: ใช้วิธีการทำอาหาร เช่น ต้ม ตุ๋น ลวก นึ่ง หรือบดอาหารให้มีเนื้อสัมผัสนุ่ม เพื่อลดความยากลำบากในการเคี้ยว เลือกวัตถุดิบที่เหมาะสม: เน้นใช้เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา ไข่ เต้าหู้ และผักที่อ่อนนุ่ม เช่น ฟักทอง แครอท หรือผักต้ม เพิ่มรสชาติและสีสัน: ใช้เครื่องเทศหรือสมุนไพร เช่น ขิง ข่า หรือกระเทียม…
การดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจ การดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุไม่ใช่แค่เรื่องของการรับประทานอาหารหรือการพักผ่อนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทำกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นทั้งสมองและร่างกาย การทำกิจกรรมสนุก ๆ กับผู้สูงอายุไม่เพียงแต่ช่วยให้มีสุขภาพที่แข็งแรง แต่ยังช่วยเพิ่มความสุขในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย ด้านล่างนี้คือกิจกรรมที่มีประโยชน์มากที่สุดเรียงลำดับตามความสำคัญ การออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดินหรือโยคะ การออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดินเล่นในสวน การทำโยคะ หรือการยืดเส้นยืดสายเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายของผู้สูงอายุ ช่วยในการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ กระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด และลดความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจและเบาหวาน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความสมดุลและลดโอกาสการหกล้ม ข้อแนะนำ: ควรจัดกิจกรรมในช่วงเช้าหรือเย็นที่อากาศเย็นสบาย และเลือกพื้นที่ที่ปลอดภัย เช่น สวนสาธารณะหรือในบ้าน การเล่นดนตรีหรือร้องเพลง ดนตรีเป็นเครื่องมือที่ช่วยกระตุ้นความจำและอารมณ์ได้อย่างดี ผู้สูงอายุสามารถร่วมร้องเพลงเก่าๆ ที่ชื่นชอบหรือเล่นดนตรีพื้นฐาน เช่น การเล่นเครื่องดนตรีง่ายๆ อย่างกีต้าร์หรือคีย์บอร์ด การฟังเพลงที่คุ้นเคยช่วยกระตุ้นสมองและลดความเครียด อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสุขที่มาจากความทรงจำดี ๆ ในอดีต ข้อแนะนำ: เปิดเพลงยุคที่ผู้สูงอายุเติบโต หรือเลือกเพลงที่มีจังหวะสนุกสนานเพื่อกระตุ้นอารมณ์เชิงบวก
การทำสวนหรือปลูกต้นไม้ การทำสวนเป็นกิจกรรมที่ให้ประโยชน์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ผู้สูงอายุสามารถปลูกต้นไม้ ดอกไม้ หรือพืชผักสวนครัวที่ดูแลง่าย กิจกรรมนี้ช่วยเสริมสร้างสมาธิ ฝึกความอดทน และทำให้รู้สึกภูมิใจในผลลัพธ์ที่ได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายได้ออกกำลังกายเบาๆ ไปพร้อมกัน ข้อแนะนำ: เริ่มจากการปลูกพืชในกระถางเล็ก ๆ…
CNH Group จัดกิจกรรมอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) และอบรมการดับเพลิงขั้นต้นให้แก่เจ้าหน้าที่ของ CNH Nursing Home ทุกสาขา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ในสภาวะฉุกเฉิน
CNH Group จัดกิจกรรมอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) และอบรมการดับเพลิงขั้นต้นให้แก่เจ้าหน้าที่ของ CNH Nursing Home ทุกสาขา
CNH Group จัดกิจกรรมอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) และอบรมการดับเพลิงขั้นต้นให้แก่เจ้าหน้าที่ของ CNH Nursing Home ทุกสาขา
CNH Group จัดกิจกรรมอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) และอบรมการดับเพลิงขั้นต้นให้แก่เจ้าหน้าที่ของ CNH Nursing Home ทุกสาขา
CNH Group จัดกิจกรรมอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) และอบรมการดับเพลิงขั้นต้นให้แก่เจ้าหน้าที่ของ CNH Nursing Home ทุกสาขา
CNH Group จัดกิจกรรมอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) และอบรมการดับเพลิงขั้นต้นให้แก่เจ้าหน้าที่ของ CNH Nursing Home ทุกสาขา
CNH Group จัดกิจกรรมอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) และอบรมการดับเพลิงขั้นต้นให้แก่เจ้าหน้าที่ของ…
CNH Group ส่งตัวแทนผู้บริหารขึ้นรับรางวัล H.E.C Friendly Design Award 2024 โดยศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในเครือ CNH Group ได้รับรางวัลทั้งหมด 3 สาขา คือ สาขาเลียบด่วน-รามอินทรา, สาขาบางพูน-ปทุมธานี และสาขาราชพฤกษ์-ชัยพฤกษ์
CNH Group ส่งตัวแทนผู้บริหารขึ้นรับรางวัล H.E.C Friendly Design Award 2024 โดยศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในเครือ CNH Group ได้รับรางวัลทั้งหมด 3 สาขา คือ สาขาเลียบด่วน-รามอินทรา, สาขาบางพูน-ปทุมธานี และสาขาราชพฤกษ์-ชัยพฤกษ์
CNH Group ส่งตัวแทนผู้บริหารขึ้นรับรางวัล H.E.C Friendly Design Award 2024 โดยศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในเครือ CNH Group ได้รับรางวัลทั้งหมด 3 สาขา คือ สาขาเลียบด่วน-รามอินทรา, สาขาบางพูน-ปทุมธานี และสาขาราชพฤกษ์-ชัยพฤกษ์
CNH Group ส่งตัวแทนผู้บริหารขึ้นรับรางวัล…
การดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจ การดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุไม่ใช่แค่เรื่องของการรับประทานอาหารหรือการพักผ่อนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทำกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นทั้งสมองและร่างกาย การทำกิจกรรมสนุก ๆ กับผู้สูงอายุไม่เพียงแต่ช่วยให้มีสุขภาพที่แข็งแรง แต่ยังช่วยเพิ่มความสุขในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย ด้านล่างนี้คือกิจกรรมที่มีประโยชน์มากที่สุดเรียงลำดับตามความสำคัญ การออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดินหรือโยคะ การออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดินเล่นในสวน การทำโยคะ หรือการยืดเส้นยืดสายเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายของผู้สูงอายุ ช่วยในการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ กระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด และลดความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจและเบาหวาน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความสมดุลและลดโอกาสการหกล้ม ข้อแนะนำ: ควรจัดกิจกรรมในช่วงเช้าหรือเย็นที่อากาศเย็นสบาย และเลือกพื้นที่ที่ปลอดภัย เช่น สวนสาธารณะหรือในบ้าน การเล่นดนตรีหรือร้องเพลง ดนตรีเป็นเครื่องมือที่ช่วยกระตุ้นความจำและอารมณ์ได้อย่างดี ผู้สูงอายุสามารถร่วมร้องเพลงเก่าๆ ที่ชื่นชอบหรือเล่นดนตรีพื้นฐาน เช่น การเล่นเครื่องดนตรีง่ายๆ อย่างกีต้าร์หรือคีย์บอร์ด การฟังเพลงที่คุ้นเคยช่วยกระตุ้นสมองและลดความเครียด อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสุขที่มาจากความทรงจำดี ๆ ในอดีต ข้อแนะนำ: เปิดเพลงยุคที่ผู้สูงอายุเติบโต หรือเลือกเพลงที่มีจังหวะสนุกสนานเพื่อกระตุ้นอารมณ์เชิงบวก
การทำสวนหรือปลูกต้นไม้ การทำสวนเป็นกิจกรรมที่ให้ประโยชน์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ผู้สูงอายุสามารถปลูกต้นไม้ ดอกไม้ หรือพืชผักสวนครัวที่ดูแลง่าย กิจกรรมนี้ช่วยเสริมสร้างสมาธิ ฝึกความอดทน และทำให้รู้สึกภูมิใจในผลลัพธ์ที่ได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายได้ออกกำลังกายเบาๆ ไปพร้อมกัน ข้อแนะนำ: เริ่มจากการปลูกพืชในกระถางเล็ก ๆ…
สาเหตุและอาการของโรคความจำเสื่อม โรคความจำเสื่อม หรือ ภาวะสมองเสื่อม (Dementia) เป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ โดยส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมอง เช่น ความจำ การคิด การตัดสินใจ และอารมณ์ ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบต่อครอบครัวและผู้ดูแลอีกด้วย สาเหตุหลักของโรคความจำเสื่อม โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s Disease): สาเหตุที่พบบ่อยที่สุด มีอาการลืมเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ซ้ำคำพูด และหลงลืม ภาวะสมองเสื่อมจากหลอดเลือด (Vascular Dementia): เกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ส่งผลให้สมองเสียหาย ภาวะสมองเสื่อมจากโรคพาร์กินสัน (Parkinson’s Disease Dementia): พบในผู้ป่วยโรคพาร์กินสันที่ระบบประสาทเสื่อม สาเหตุอื่น ๆ: เช่น โรคหลุยส์บอดี้ (Lewy Body Dementia) หรืออาการบาดเจ็บสมอง
อาการของโรคความจำเสื่อม ความจำเสื่อม: ลืมข้อมูลหรือเหตุการณ์ล่าสุด ความสับสน: จำชื่อสถานที่ บุคคล หรือเวลาไม่ได้ การตัดสินใจลดลง: ตัดสินใจช้า หรือผิดพลาด อารมณ์เปลี่ยนแปลง:…
CNH Nursing Home ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อน การดูแลผู้สูงอายุด้วยความเอาใจใส่และเป็นกันเองในทุกขั้นตอน
ความสำคัญของการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในผู้สูงอายุ
1. การเสริมภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ในผู้สูงอายุ
2. ป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากไข้หวัดใหญ่
3. ลดความเสี่ยงในการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล
ข้อดี: ของการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในผู้สูงอายุ
1. ลดโอกาสในการติดเชื้อ และอาการแทรกซ้อน
2. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงตลอดช่วงฤดูไข้หวัดใหญ่
3.ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
ข้อเสีย: ที่ควรพิจารณาก่อนการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สำหรับผู้สูงอายุ
1. อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีน
2. ประสิทธิภาพของวัคซีนที่ไม่สมบูรณ์
3. ความจำเป็นในการฉีดวัคซีนประจำทุกปี
ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนและหลังการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในผู้สูงอายุ
1. ปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดวัคซีน
2. พักผ่อนและการดื่มน้ำให้เพียงพอ
3. สังเกตอาการข้างเคียงหลังการฉีดวัคซีน
ทำไมต้องเลือก CNH Nursing Home สำหรับการดูแลผู้สูงอายุ
1. บริการดูแลผู้สูงอายุอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง
2. ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญ
3. การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด
การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมภายในบ้าน, ในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ หรือบ้านพักคนชรา จะช่วยให้ผู้สูงอายุยิ้มได้ทุกวัน พร้อมทั้งมีสุขภาพที่ดีและมีความสุขในทุก ๆ วัน แนวทางในการดูแลผู้สูงอายุ การดูแลด้านร่างกาย จัดอาหารที่มีประโยชน์: เน้นอาหารที่ย่อยง่ายและมีสารอาหารครบถ้วน โดยเฉพาะอาหารที่มีเส้นใยสูง ลดการบริโภคแป้ง เพิ่มโปรตีนและวิตามิน เพื่อป้องกันท้องอืดและท้องผูก
การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม: แม้ว่าผู้สูงอายุจะกลัวการออกกำลังกายเนื่องจากเสี่ยงต่อการหกล้ม แต่การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่จำเป็น ควรเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม เช่น โยคะ การเดิน หรือการแกว่งแขน เพียงวันละ 10-20 นาที
การควบคุมน้ำหนัก: น้ำหนักที่เหมาะสมมีผลดีต่อการควบคุมโรคและการเคลื่อนไหวที่คล่องตัวมากขึ้น
การพบแพทย์ตามนัดและการตรวจสุขภาพประจำปี: ควรพบแพทย์ตามนัดและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ การดูแลจิตใจ การแสดงความเคารพและระวังคำพูด: การให้ความเคารพต่อผู้สูงอายุเป็นสิ่งสำคัญ ช่วยสร้างความรู้สึกว่าท่านยังมีคุณค่าในครอบครัว
การสนับสนุนความรู้สึกมีคุณค่า: การขอคำแนะนำหรือขอความช่วยเหลือจากผู้สูงอายุในเรื่องต่าง ๆ จะทำให้ท่านรู้สึกมีความหมายและไม่ถูกละเลย
การพาผู้สูงอายุออกไปพบปะญาติและเพื่อน: การสังสรรค์และการพบปะกับเพื่อนหรือกลุ่มคนในวัยเดียวกัน ช่วยสร้างความสุขและลดความเหงา
การหากิจกรรมยามว่างให้ทำ: การมีงานอดิเรกหรือการพูดคุยเรื่องราวในอดีตสามารถทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกผ่อนคลาย
การให้อภัยและการแสดงความเห็นอกเห็นใจ: ควรแสดงความเข้าใจในความหลงลืมและความผิดพลาดของผู้สูงอายุ การดูแลด้านสิ่งแวดล้อม การใกล้ชิดกับบุตรหลาน: หากผู้สูงอายุอาศัยอยู่ที่บ้านพักคนชรา ควรมีการไปเยี่ยมเยียนอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ท่านรู้สึกว่าไม่ถูกทอดทิ้ง
การจัดบ้านให้ปลอดภัย: บ้านควรมีการจัดเตรียมพื้นที่ที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงพื้นที่ลื่นหรือทางต่างระดับ มีราวจับและแสงสว่างเพียงพอ
การสร้างบรรยากาศที่ดี: ควรให้ผู้สูงอายุได้อยู่ในสถานที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์…
ป้องกันอัลไซเมอร์ในผู้สูงวัยด้วยการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี เรียนรู้เคล็ดลับดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจ พร้อมคำแนะนำจากศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ การสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีเพื่อลดความเสี่ยงอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ ความสำคัญของการป้องกันอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ อัลไซเมอร์เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมถอยของสมอง ซึ่งพบมากในผู้สูงอายุ การป้องกันด้วยการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคนี้เคล็ดลับดูแลผู้สูงอายุเพื่อลดความเสี่ยงอัลไซเมอร์ ฝึกสมองด้วยกิจกรรมต่าง ๆ การเล่นเกมฝึกสมอง เช่น เกมจับคู่ภาพ หรือเกมบวกเลข จะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง และเพิ่มความสามารถในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และช่วยให้สมองทำงานได้ดี ควรเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ เช่น การเดิน, โยคะ, หรือการรำมวยจีน รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การรับประทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารที่ช่วยบำรุงสมอง เช่น เนื้อปลา ผักสีเขียว และธัญพืช จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ การนอนหลับที่เพียงพอ การพักผ่อนที่เพียงพอเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยป้องกันการสะสมตัวของสารแอมิลอยด์ (Amyloid) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคอัลไซเมอร์ ดูแลสุขภาพจิตให้ดี การพบปะพูดคุยกับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวบ่อย ๆ จะช่วยลดความเครียด เพิ่มสุขภาพจิตที่ดีและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ หลีกเลี่ยงสารพิษ การเลิกสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ และลดการดื่มแอลกอฮอล์ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ รวมถึงโรคอัลไซเมอร์ ป้องกันอุบัติเหตุในบ้าน การจัดสภาพแวดล้อมในบ้านให้ปลอดภัย…
โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) หรือที่เรียกว่าอัมพฤกษ์ เป็นภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยง เนื่องจากหลอดเลือดตีบ หลอดเลือดอุดตัน หรือหลอดเลือดแตก ทำให้เนื้อเยื่อสมองถูกทำลาย ส่งผลให้การใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยลดลงอย่างมาก การกายภาพบำบัดเป็นวิธีสำคัญในการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคนี้ โดยเฉพาะในช่วง 3-6 เดือนแรก ซึ่งสมองสามารถฟื้นฟูได้ดีที่สุด อาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง แขนขาอ่อนแรง: ไม่สามารถขยับหรือช่วยเหลือตัวเองได้
ปากเบี้ยวและการสื่อสารผิดปกติ: พูดไม่ชัด กลืนลำบาก
ชาแขนขา: ไม่รู้สึกเมื่อสัมผัสของร้อนหรือของมีคม
ข้อไหล่หลวม: เกิดจากกล้ามเนื้อรอบหัวไหล่อ่อนแรง
กล้ามเนื้อเกร็งกระตุก: พบได้ในระยะต่อมาของอัมพาต
แขนและมือปวดบวม: เกิดจากการไม่เคลื่อนไหวของแขนและขา วิธีการบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ปัญหาแขนและขาอ่อนแรง: ควรทำกายภาพบำบัด เช่น ฝึกนั่ง ยืน เดิน และทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การรับประทานอาหาร ใส่เสื้อผ้า อาบน้ำ เป็นต้น
ปัญหากล้ามเนื้อเกร็ง: การออกกำลังเคลื่อนไหวข้อต่อ ดัดหรือยืดเหยียดกล้ามเนื้อ การใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด หรือการฉีดยาลดเกร็ง ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ
ปัญหาแผลกดทับ: การจัดท่านอนที่ถูกต้องเพื่อป้องกันแผลกดทับและชะลอการยึดติดของข้อต่อ
ปัญหาการกลืน: ฝึกกล้ามเนื้อที่ใช้ในการรับประทานอาหารและฝึกกลืนอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
ปัญหาการสื่อสาร: ฝึกการสื่อสารเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถสื่อสารได้มากที่สุด การทำกายภาพบำบัดเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาทำกิจวัตรประจำวันได้ใกล้เคียงปกติ…